รวมเรื่องจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

การเพาะขยายจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
โดยkonthain(นพ)เกษตรพอเพียง

เอาส่วนผสมที่ผมขยายกับแกลลอน 5 ลิตรนะครับ

หัวเชื้อจุลินทรีย์ขยาย 2 แก้ว(แก้วขนาด 250 มิลลิลิตร)หรือครึ่งลิตร
ไข่เน่า 1 ฟอง(ตีๆคนๆให้แหลกทั้งเปลือก)
รสดี 2 ช้อนชา
น้ำปลาแท้(ไม่ใช่น้ำเกลือผสมสี) 2 ช้อนโต๊ะ
เอาทั้งหมดมาคนๆผสมให้เข้ากันแล้วเทใส่แกลลอนสีขาวขุ่นแล้วเติมน้ำลงไป ครึ่งแกลลอนปิดฝาแล้วเขย่าให้เข้ากัน
แล้วเติมน้ำจนเต็มแกลลอนให้เหลืออากาศให้น้อยที่สุด ปิดฝาแล้วเย่าอีกรอบ แล้วนำแกลลอนไปตั้งตากแดดไว้
และคอยมาเขย่าแกลลอนอยู่เสมอวันละ 3-4 ครั้ง(หรือถ้าขยันก็เขย่าบ่อยๆครับ )

สูตรนี้ 3 วันจุลินทรีย์ก็แดงแล้วครับแล้วก็เอาตัวนี้ไปขยายอีกได้เลยไปเรื่อยๆจนกว่าจะไม่มีขวดหรือแกลลอนจะใส่

จะเก็บนานๆ ต้องทำอย่างนี้ครับ
เก็บในที่มืด 2 เดือน แล้วนำมาตากแดด 3-5 วัน ดูตามความแดงของ สีถ้าแดงเป็นที่พอใจก็เก็บ
แล้วเก็บไว้ในที่มืดอีก 2 เดือน ทำอย่างนี้สลับกันไป ช่วยได้มาก

ประโยชน์ของุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
1.บำบัดน้ำเสีย
2.เปลี่ยนของเสียให้เป็นธาตุอาหารพืช
3.ตัวมันมีโปรตีน คลอโรฟิลล์ แคโรทีน วิตามิน

ผมเก็บน้ำเสียจากคอกหมู  ตากแดด 4-5 วัน  ใส่ไข่เน่า 1 ฟอง
ตากแดดทิ้งไว้ 2 วัน

ถ้าทำได้ตามนี้เราก็จะมีหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 5 ลิตร ( 1 ลิตรเอาไปขยายใช้กับนาข้าว 5 ไร่)

อัตรส่วนการใช้กับนาข้าว 1 ไร่เราก็จะทำการขยายเชื้อจุลินทรีย์ก่อนโดยมีอัตราส่วนดังนี้ครับ
น้ำเปล่า 20 ลิตร เติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ 200 ซีซี เติมอาหารเลี้ยงเชื้อ(ไข่ดิบ,ไข่เน่า,คะนอร์,แบรนด์) 200 ซีซี
คนให้เข้ากันแล้วนำไปฉีดพ่นหรือสาดในพื้นที่นาข้าว 1 ไร่ครับ

แก้ไขเพื่มเติมลืมบอกไปว่านาข้าวเขาจะฉีดพ่นจุลินทรีย์ 4 ครั้งดังนี้ครับ

ครั้งที่ 1 เมื่อข้าวอายุครบ 20 วัน นับจากวันที่เริ่มหว่าน ฉีดพ่นเชื้อจุลินทรีย์ขยาย 20 ลิตรต่อ 1 ไร่
ครั้งที่ 2 เมื่อข้าวอายุครบ 40 วัน ฉีดพ่นเชื้อจุลินทรีย์ขยาย 20 ลิตรต่อ 1 ไร่
ครั้งที่ 3 เมื่อข้าวอายุครบ 60 วัน ฉีดพ่นเชื้อจุลินทรีย์ขยาย 20 ลิตรต่อ 1 ไร่
ครั้งที่ 4 เมื่อข้าวเริ่มตั้งท้องออกรวง ฉีดพ่นเชื้อจุลินทรีย์ขยาย 40 ลิตรต่อ 1 ไร่

รวบรวมส่วนหนึ่งมาจาก เกษตรพอเพียง.คอม
สอบถามเรื่อง การเพาะขยาย จุลินทรีย์ สังเคราะห์แสงครับ
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=78215.0;topicseen
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง มีคุณประโยขน์นานาสำหรับการเกษตรจริงหรือ
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=101302.0